หอบงานกองใหญ่ ๆ กลับมาบ้าน หอบไปแล้วก็หอบมา เป็นเวลานานแสนนาน …มันก็ยังไม่เสร็จ งานบางชิ้นตั้งแต่ต้นเทอมที่แล้วก็ยังไม่ได้สะสาง ครั้นพอเวลามันผ่านมา ก็เริ่มกังวลใจ หยิบมาพิจาราณา พิจารณา และก็พิจาราณา เสร็จแล้วก็วางไว้อีก สาเหตุเพราะ แรงบันดาลใจมันหายไปพร้อม ๆ กับอายุของการทำงาน เหน็ดเหนื่อยกับอาชีพที่ทำมาเกือบสิบปี เริ่มอิ่มและเต็ม เหมือนจะเริ่มเอียนจนเลี่ยนเต็มที
เมื่อเบื่อก็ตระเวนหากิจกรรมอะไรทำ กิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับงานประจำ เป็นงานที่ชอบ หนึ่งในงานที่ชอบนอกเหนือจากบล็อกเกอร์สมัครเล่น ก็คือ การปลูกต้นไม้ เมื่อเดือนที่ผ่านมาวางแผนใช้เวลาหลังเลิกงาน อาทิตย์ละ 2-3 วัน เพียงวันละไม่ถึง 20 นาทีในการปลูกผักบุ้ง ผักขึ้นฉ่าย ต้นไม้ ดอกไม้ ถอนหญ้า บำรุงดิน โดยตั้งใจจะปลูกผักสวนครัวเองตลอดไป กิจกรรมดังกล่าวช่วยให้ลืมสิ่งที่น่าเบื่อจากงานประจำไปได้บ้าง แถมได้เหงื่อมาด้วย เป็นการออกกำลังกายอีกวิธีหนึ่ง
เย็นนี้กลับบ้านเร็ว เพราะตั้งใจเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำบุญตักบาตรในวันมาฆบูชา เมื่อตระเตรียมอุปกรณ์ ข้าวของเสร็จ จึงทำให้มีเวลาในการดูแลพืชผักมากขึ้น ผักบุ้งกำลังงามสะพรั่่ง ได้เก็บไปผัดไฟแดงมาแล้วรอบหนึ่ง เนื่องจากปลูกผักแบบไร้ทฤษฏี ทำเล่น ๆ พอเพลิน ๆ จึงเป็นแปลงผักที่หลากหลาย มีทั้งผักบุ้ง ต้นพริก ต้นดาวเรือง แแถมผักบุ้งที่ปลูกพร้อมกัน กลับโตไม่พร้อมกัน กลายเป็นผักบุ้ง 2 รุ่น รุ่นแรกนำไปผัดได้แล้ว อีกรุ่นกำลังงามตามมาทีหลัง ใครผ่านมาเห็นก็นึกขำ นี่หล่ะน๊า เค้าว่าแปลงผักปริญญาโท ส่วนขึ้นฉ่าย กำลังโต ใบเขียวอวบ ๆ พอๆ กับผักบุ้ง ครั้นมองเห็นผลผลิตที่ตนเองเสียเหงื่อแลกมา ทำให้นึกภูมิใจ สิ่งที่เราทำมีประโยชน์กว่าการนอนก่ายหน้าผากจมอยู่กับความทุกข์ที่ทับถม หรือความทุกข์จรที่มักจะผ่านมาให้ทุกข์อยู่เรื่อย ๆ เหลียวมองรอบ ๆ ข้างแปลง ก็จะเจอกุหลาบและไม้ดอก ไม้มงคล ที่เราผ่านไปเจอร้านต้นไม้ที่ใด ก็จะต้องแวะเข้าไปทักทายพร้อมบริจาคเงินให้กับเจ้าของร้าน ไม่มากก็น้อย ได้ของแถมจากการบริจาคเป็นต้นไม้สารพัดพรรณ ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก ทำแบบนี้มาหลายปี ดังนั้นบริเวณหน้าบ้านจึงกลายเป็นสวนพรรณไม้ขนาดย่อม ซึ่งเป็นแหล่งสวรรค์สำหรับหลีกลี้โลกที่วุ่นวายสำหรับเรา
ข้าง ๆ บ้านมีพรรณไม้ยืนต้น ที่กำลังแตกดอกออกผล คือ ละมุด กับมะม่วง ที่เคยซื้อมาปลูกเมื่อนานมาแล้ว ปัจจุบัน ต้นไม้กำลังออกดอกและให้ผล เวลาที่ผ่านมากำลังส่งผลต่อดอกไม้ และพืชผักที่เราเคยเสียเวลาไปดูแลมัน นั่นหมายถึงเวลาที่เราเสียไปกำลังคืนผลให้กับเรา มันคือผลผลิตจากพืชพรรณเหล่านี้ แล้วยังแถมกำไรให้เราอีกด้วย มันคือ ความสุขเล็ก ๆและความภาคภูมิใจในตนเอง ย้อนกลับมาดูงานประจำที่ยังกองอยู่บนโต๊ะ หากเราทำแบบนี้บ้าง ทำเพราะชอบ ทำเพราะใจรัก อยากจะรู้จัง ผลผลิตของมันจะน่าชื่นชมซักขนาดไหน ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น