• Breaking News

    เวบบล็อกบันทึกชีวิตธรรมดาของผู้หญิงธรรมดา มิมีสาระ แค่บ้า ๆ บ่น ๆ

    ค้นหา

    29 ต.ค. 2554

    ก้าวไปข้างหน้าหรือว่ากำลังถอยหลัง

    ใกล้จะเปิดเทอมเข้ามาแล้วสิ   งานที่ถมตั้งแต่ต้นเทอมจนป่านนี้ก็ยังสะสางไม่เสร็จ  ถึงจะมีโรคประจำตัวที่รักษายังไงก็ไม่หายขาดคือโรคขี้ลืมและโรคทรัพย์จาง  แต่ทว่าก็ยังไม่เคยลืมเลือนนิสัยดั้งเดิม  นิสัยประจำจนอาจจะเรียกว่า สันดา…. อุ๊บ ( ศีลข้อ 4 วิบัตเข้าให้แล้วไหมหล่ะ)  นิสัยประจำที่ว่านี่คือชอบนำดินมาพอกหางหมู     จะมีประโยคยอดฮิตติดปาก “ เดี๋ยวค่อยทำก็ได้น่า “ อีกไม่นานยอดเขาพระสุเมรุที่ว่ามีความสูงยิ่งนัก  อาจจะมีคู่แข่ง  เป็นกองงานของเราเองก็เป็นได้  Smiley Emoticons

    เคยตั้งสัจจะไว้ว่าจะหาโอกาสปฏิบัติธรรมและเปิดโรงทานอย่างน้อย 1 ที่ทุก ๆ ช่วงของการปิดเทอม  ภูมิใจนักหนาที่สามารถทำมาได้เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ๆ แต่ว่าในช่วงปิดเทอมครั้งนี้ จำยอมงดสวมชุดนักปฏิบัติ เพราะนอกจากงานเดิมที่กองเป็นตั้งอยู่แล้ว   ยังต้องมาสวมบทบาทเป็นลูกยอดกตัญญู   เนื่องจากผลงานวิชาการ  อาจารย์ 3 หรือ ผลงานวิทยฐานะชำนาญการพิเศษของแม่ที่ส่งไป     ส่งครั้งแรกผลประกาศว่าตก  ส่งครั้งที่ 2 บอกว่าปรับปรุง นี่เป็นรอบที่ 3 ที่ต้องมาแก้แล้วแก้อีก  แม่ส่งตั้งแต่ตอนที่เรากำลังเรียนปริญญาโทอยู่  จนกระทั่งบัดนี้เรียนจนจบแล้ว ดังนั้นในฐานะลูกจึงจำเป็นต้องมานั่งตรวจทานและแก้ไขให้ใหม่   เนื่องจากไม่ได้เรียนมาสายการสอนโดยตรง  ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมาก   ซ้ำนิสัยส่วนตัวแล้ว ไม่ชอบงานวิจัยแม้แต่น้อย  แต่ก็จำใจ  เนื่องจากสังคมยอมรับกันนักหนา  ว่าผลงานวิจัยมันบอกถึงประสิทธิภาพและความสามารถของคนเป็นครู  อยากจะเถียงแทบขาดใจ  ผลงานวิจัยมันบอกตรงไหนกัน  กะอีแค่ยื่นเงินจ้าง  หาคนเรียนจบวิจัยเก่ง ๆ สักคน จ้างทำให้ก็เป็นอันเสร็จ  ส่วนอยู่ที่โรงเรียน หลบ ๆ บัง ๆ เสาโรงเรียนอยู่ไปวันๆ ก็ยังได้เป็นอาจารย์ 3 ถมถืด  หากจะสาธยุายให้ยาวไป  มันก็เหมือนสาวไส้ให้กากินนั่นหล่ะน๊า

    อ่านข้อ comment ของงานวิจัยแล้วสับสน  มันช่างแตกต่างจาก งานวิจัยของผู้บริหารอย่างลิบลับ   คณะกรรมการท่านตรวจจิกทุกแผ่น ทุกหน้า ทุกตัวอักษร และทุกเคาะ  เมื่อไม่รู้จะปรึกษาใคร ก็ค้น ๆ ไปเรื่อย ๆ ค้นและอ่านมาก ๆ เข้า ทำให้เข้าใจว่า งานวิจัยมันก็อีหรอบเดียวกัน ลอก ๆ กันมา  นี่หน่ะเหรอ มันบ่งบอกประสิทธิภาพสมควรจะรับตำแหน่งวิทยะฐานะ  ให้ครูรุ่นแม่ เรา นี่หน่ะทำวิจัย  คิดได้ไง ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงมีจ้างทำวิจัย   แค่เปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา แม่ก็เวียนหน้าเวียนหัว ซ้ำร้ายยิ่งไปกว่านั้น  ครูต่างมุ่งมั่นทำผลงานกันเหลือเกิน  งานไหน ๆในโรงเรียน ก็ไม่มีใครอยากรับผิดชอบ  โยนโครม ๆๆ กันมา ใครโง่ก็รับไป  หากมีแข่งขันผลงานวิชาการกันบ้างหล่ะก็ แย่งเด็กเก่งกันให้วุ่น  ส่วนไอ้ที่ตาดำ ๆ หน้าแหล่ ๆ  แบบ LD ทั้งหลาย แล้วแต่มันจะเป็น

    โอ้ละหนอ ! อนาคตการศึกษาไทย เนี่ยมันก้าวหน้าหรือถอยหลังกันแน่นะ

    ปล. เขียนแบบนี้ไป ถึงทีเราทำวิทยฐานะได้บ้าง  เกิดประกาศไม่ให้มีวิทยฐานะขึ้นมาหล่ะก็  ซวยเลยตู Animated Emoticons

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น

    บทความคอมพิวเตอร์

    Fashion

    Popular

    Beauty

    Recent Post

    Travel