วันนีเราไม่ใช่แม่ครัว เพราะไม่ได้ทำอาหารเอง แต่มีอาหารชั้นเลิศ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าอาหารชั้นสูงที่ตนเองชอบใจอยากแบ่งปัน มันคือ แกงยอดมะพร้าว บางคนเรียกแกงเปอะยอดมะพร้าว
ยอดมะพร้าวที่ตัดมาจากต้น | ยอดมะพร้าวสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายกับหน่อไม้ |
แม่เล่าว่าไม่เคยเอายอดมะพร้าวมาทำอาหาร น้าที่ไปตัดยอดมะพร้าวจากสวนมา ก็ทำไม่เป็น เมือสองแม่ครัวต่างทำอาหารจากยอดมะพร้าวไม่เป็น จึงถามวิธีการจากน้าผู้ชาย ได้ความว่า วิธีการคล้ายกับแกงหน่อไม้ ดังนั้น ทั้งแม่และน้าจึงช่วยกันทำแกงยอดมะพร้าว ส่วนเราช่วยเป็นกำลังใจอยู่ใกล้ ๆ เพราะตัวเราเองก็ทำไม่เป็น แต่เราเคยรับประทานจากร้านอาหาร จึงพอจำรสชาติได้ ดังนั้นหน้าที่สำคัญของเราในการทำอาหารครั้งนี้คือ ติและชิม
ใบย่านาง | หม้อแกงกำลังเดือดได้ที่ |
วิธีการในการแกงยอดมะพร้าวเริ่มจาก
1. นำใบย่านางมาล้างให้สะอาด โขลกรวมกันกับ ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ ภาษาชาวบ้าน ข้าวสารที่นำมาแช่น้ำ เค้าเรียกกันว่า “ข้าวเบือ “
2 . หลังจากโขลกจนละเอียดพอสมควร ตักใส่ ชาม เติมน้ำลงไป แล้วคั้นเอาเฉพาะน้ำ คล้ายกับ การคั้นกระทิ กะพอประมาณให้น้ำใบย่านาง พอเหมาะกับ ปริมาณของยอดมะพร้าว
3.นำน้ำที่ผ่านการคั้นจากใบย่านางและข้าวสาร ขึ้นตั้งไฟ
4. โขลกพริกแกง ซึ่งมี กระเทียม หัวหอมแดง พริกขี้หนู เกลือเล็กน้อย กระชาย บางสูตรอาจจะโขลกใส่กะปิ ไปด้วย แต่ที่บ้าน เค้าจะใส่ปลาทูหอม สับให้ละเอียดโขลกใส่รวมกัน
5. ตักเครื่องแกงใส่หม้อน้ำใบย่านาง ใช้ทัพพีคนให้ทั่ว
6. รอจนหม้อแกงเดือด ใส่ยอดมะพร้าวลงไป หากมีเห็ดฟางก็ใส่เพิ่มด้วยกันได้
7.ปิดฝาหม้อรอจน ยอดมะพร้าวและเห็ดสุก ต่อจากนั้นปรุงรส ด้วยน้ำปลาร้า หรือน้ำปลา กระซิบนิดหนึ่งว่าที่บ้านขาดไม่ได้คือ ผงชูรส
8.ยกหม้อแกงลงจากเติม เติมผัก ชะอม ชะพลุุ หรือ แมงลัก ยกขึ้นเสริฟร้อนๆ ได้เลยค่ะ
นอกจากยอดมะพร้าวจะสามารถแกงโดยใช้สูตรแบบแกงเปอะ น้าผู้ชายยังเล่าต่อว่า อาจจะนำยอดมะพร้าวมาต้มใส่กระดูกหมู หรืออาจจะนำมาห่อหมกยอดมะพร้าวก็อร่อย แต่ถึงแม้ไม่ต้องแกง ยอดมะพร้าวดิบ ๆ ก็กินเล่นได้อร่อย อาหารชั้นสูงขนาดนี้เคยรับประทานกันบ้างหรือยังคะ ?