• Breaking News

    เวบบล็อกบันทึกชีวิตธรรมดาของผู้หญิงธรรมดา มิมีสาระ แค่บ้า ๆ บ่น ๆ

    ค้นหา

    7 เม.ย. 2555

    คนช่างฝัน อยากผันเป็นช่างเขียน



    images (16)ได้ฟังเพื่อน ๆ และ เหล่านักอ่านบทความในเวบบล็อก หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ในพฤติกรรมของการดำเนินชีวิต ผ่านตัวอักษรที่เราเคยแบ่งปันบนโลกออนไลน์    หลาย ๆ ประโยคที่ มีทั้งคำชมและคำด่า  แต่มีประโยคที่เราต้องเก็บมาครุ่นคิด “ ทำไมไม่ลองเขียนนิยายดูบ้างหล่ะ วิธีการเขียนมีแววเเป็นนักขียนได้นะ ? "  อืม……ไม่ใช่ไม่อยากลองเขียน แต่คิดว่าศักยภาพของตนเองทำไม่ได้แน่นอน ด้วยนิสัยแค่ช่างฝัน   สร้างเรื่องได้ในใจ แต่ไม่สามารถสื่อสารให้ผู้อ่านร่วมเดินทางไปกับจินตนาการของนวนิยาย  ไม่สามารถเกลาภาษาให้สละสลวย เพื่อเรียกรอยยิ้ม น้ำตา ความสนุกสนาน อารมณ์ระทึกขวัญ รวมทั้งแง่คิดที่ผู้อ่านได้จากนวนิยายเล่มนั้น ๆ     แต่ในใจมีประโยคที่ยังถกเถียงกันต่อว่า  “ก็ในเมื่อยังไม่ได้เขียนจะรู้ได้อย่างไรว่าเขียนได้หรือไม่ได้  ” คำตอบที่อยู่ในใจและตัวเราเองไม่อยากยอมรับมัน ก็คือ เราขาดความมั่นใจเศร้า

    เนื่องจากเป็น บล็อกเกอร์ จึงมักจะตระเวนไปทิ้งบทความไว้ตามเวบให้บริการเขียนบล็อก  และวันนี้ก็ได้กลับไปที่เวบให้บริการอีกที่หนึ่ง  ที่ซึ่งทำให้เราหมดความมั่นใจไม่กล้าเขียนบทความในแนวแสดงความคิดเห็น และขยาดที่จะเขียนบทความที่นั่น   เราเปิดหน้าเวบไปอ่านบทความที่ตนเคยสร้างสรรค์ไว้   และย้อนกลับไปอ่านความคิดเห็นที่อาจารย์ท่านหนึ่ง เขียนแสดงความคิดเห็น  เนื่องจากเราไม่มีชื่อเสียง ไม่มีใครในแวดวงรู้จัก  แต่บทความหลายบทความที่เขียนเล่น ๆ เข้าไปเตะตาอาจารย์ท่านนี้เข้าอย่างจัง ท่านจึงเขียนแสดงความชื่นชม พร้อมกับให้กำลังใจ บอกให้เราฝึกฝนงานเขียนไปเรื่อย ๆ และนั่นเป็นคำชมมหาภัย ที่ทำให้เราเขียนบทความอีกไม่ได้หลายเดือน    เมื่อรับรู้ว่ามีคนชื่นชมและติดตามอ่าน กลับรู้สึกเหมือนมีคนกำลังจับผิด  เราเกร็งและกลัว หวั่นว่าบทความชิ้นต่อ ๆ มา มันคือพัฒนาการที่ดีหรือด้อยกว่าเดิม  นั่นเป็นสาเหตุของ ความมั่นใจในการเขียนที่หายไป

    ครั้นกลับมาอ่านความคิดเห็นอีกครั้ง ทำให้สะดุดเข้ากับกับประโยคที่เราเคยไม่ใส่ใจมัน แต่ครานี้มันดังก้องอยู่ในหัวและกระแทกเข้าที่ใจเราอย่างจัง  ประโยคนี้ทำให้เราเปลียนใจ  อยากฝึกฝนหัดเขียนอีกครั้ง มันคือข้อความตอนท้ายความคิดเห็นมีใจความว่า “ งานเขียนของคุณจะเป็นประโยชน์ให้กับใครหลาย ๆ คน ในอนาคต ” เราอยากให้ประโยคนี้เกิดขึ้นจริง   กว่าที่หม้อดินจะกลายเป็นหม้อที่ใช้ประโยชน์ได้  มันต้องผ่านการทุบ นวด ปั้น หลายกระบวนการจึงจะกลายเป็นหม้อดินที่มีประโยชน์   หากเรามัวนึกกลัวกับการต้องผจญกับกระบวนการฝึกฝนนั้น ๆ ประโยคนี้คงเป็นจริงขึ้นไม่ได้  อืม….สู้โว้ย ….ยิ้มแฉ่ง

    บทความคอมพิวเตอร์

    Fashion

    Popular

    Beauty

    Recent Post

    Travel