เมื่อมีใครถามว่าอาศัยอยู่อำเภอไหนเราจะตอบต่อท้ายเองเสมอว่า “อยู่อำเภอสนมสวยค่ะ” แถมท้ายด้วยรอยยิ้ม ( ใครจะกล้าว่าขี้เหร่ต่อหน้าให้มันรู้ไป) เคยมีคำแซวต่อท้ายมาให้ฉุกคิดเกี่ยวกับชื่ออำเภอว่า “ เอ่อ ก็เล่นไปอยู่อำเภอเมียน้อย จนป่านนี้เอ็งเลยไม่มีคู่กะเค้าซะที “ นั่นสินะปู่สังกะสา ย่าสังกะสี ท่านคิดเช่นไรจึงได้ตั้งชื่ออำเภอเช่นนี้ ปัจจุบันอำเภอสนมก็ยังคงอยู่ในสภาพเมียน้อยที่ความเจริญยังไม่บังอาจเข้าถึงได้ ต้องรอต่อท้ายจากอำเภออื่น ๆ เสมอ เคยขอสัญญาณโทรศัพท์เข้าบ้านจนป่านนี้เป็นเวลา 7 ปีเต็ม ปัจจุบันก็ยังไม่มีสายสัญญาณเข้าถึง รถโดยสายที่วิ่งผ่านเข้าตัวเมือง 2 ชั่วโมงมีหนึ่งคัน และทุกคันมีสภาพเหมือนปลากระป๋องยี่ห้อหลายพ่อและแม่ครัว โดยผู้โดยสารจำเป็นต้องนั่งอย่างบังคับให้มีน้ำใจ คือต้องนั่งครึ่งก้นกันทั้งนั้น สภาพรถที่แก่กว่าอายุยายที่บ้าน มันส่งเสียงประท้วงดัง ครืด ๆ คราด ๆ ได้ยินแล้วต้องตั้งจิตอธิฐาน “ขอลูกช้างลูกม้ากลับถึงบ้านโดยสภาพอวัยวะทุกอย่างอยู่ครบ ให้พ่อและแม่จำหน้าได้ด้วยเทอญ “ นี่หล่ะ อำเภอสนม โค-ตะ-ระ บ้านนอกได้ใจจริง ๆ
ยำดักแด้ | ผ้าไหมลายดอกจาน |
ในสภาพที่ดูเหมือนจะห่างไกลความเจริญ กลับมีวัฒนธรรมชนบทที่ยังคงงดงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่นี่บ้านเรา ยังตักแกงให้กับเพื่อนบ้าน แบ่งปันพืชผักผลไม้ในบ้าน แม้ใครเดินผ่าน อยากลิ้มรสมะยมหน้าบ้าน เราจะเก็บให้เป็นตะกร้าใหญ่ ๆ เช้าตรู่ จะเห็นภาพชาวบ้านกุลีกุจอเตรียมใส่บาตร ๆ วันศีลวันพระ ที่วัดยังเต็มไปด้วยพุทธศาสนิกชนเต็มศาลา มีทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ วัยทำทาง และเด็ก ๆ ค่ำคืนยังมีเสียงจิ้งหรีดเรไรขับกล่อม สวรรค์อยู่บนพื้นดินแท้ ๆ เชียว
หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าว ชาวบ้านจะปลูกหม่อมเลี้ยงไหมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้อำเภอสนม มีคำขวัญประจำอำเภอที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงไหมว่า “ สนมถิ่นผ้าไหม น้ำใจดี มีหมอนขิต ผลิตข้าวหอม พร้อมวัฒนธรรม ” นอกจากผ้าไหมที่ได้เป็นผลผลิตแล้ว ยังมีดักแด้ ซึ่งสามารถนำมาประกอบอาหารอีสานได้หลายแบบ ดักแด้ให้สารอาหารเป็นโปรตีนสูง ที่สำคัญยังปลอดสารพิษแน่นอน นอกจากนั้น ขี้ไหม เป็นปุ๋ยธรรมชาติได้อีกด้วย
วันศุกร์ชุดทำงานคือชุดไหม | ลายผ้าไหมแบบสุรินทร์ |
บ้านพลับเป็นอีกหมู่บ้านที่มีกลุ่มแม่บ้าน เพื่อช่วยเหลือกันในเรื่องการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และทอผ้า วันนี้เราผ่านมาบ้านป้าอุ๊ นึกแปลกใจนัก เกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงเห็นผู้หญิงนับสิบมารวมตัวกันนั่งสาวไหม หรือเค้ามีงานอะไรเกิดขึ้น จึงได้เดินเข้าไปสอบถาม พบว่า ป้าอุ๊ เจ้าของบ้านได้วานเพื่อนบ้านลงแขกสาวไหม เพราะว่ามีไหมที่สุกพร้อมกันหลายกระด้งจำเป็นจะต้องดึงเอาเส้นไหมออกจากตัวดักแด้ ก่อนที่มันจะฟักออกเป็นตัวผีเสื้อ หากสาวไหมคนเดียวคงไม่ท้นแน่ ป้าอุ๊เลยขอวานเพื่อนบ้านออกแรงช่วยสาวไหม โดยมีอาหารเที่ยงหนึ่งมื้อเลี้ยง ไม่มีค่าจ้างอื่นใด ในการวานลงแขกสาวไหมในครั้งนี้มีเพื่อนบ้านมาช่วยนับสิบคน เมื่อมองผ่านเข้าไปในงาน เพื่อนบ้านช่วยงานกันงานขมีขะหมัน ทำงานไปพลางพูดคุยทักทายกันอย่างสนุกสนาน เด็ก ๆ เดินวนไปมาเพื่อกินดักแด้จิ้มกับเกลือ บรรยากาศที่คึกคักและอบอวลไปด้วยน้ำใจ ทำให้ความรู้สึกสลดใจไปกับหนอนผีเสื้อตัวน้อยที่โดนต้มอยู่กลางหม้อร้อน ๆ ลดลง กลายเป็นความรู้สึกอยากมีส่วนร่วม เราเข้าไปขอทดลองสาวไหมสักพักแล้วขอตัวมานั่งปอกดักแด้ให้เด็ก ๆ เหตุเพราะกลัวเส้นไหมที่ได้พันกันยุ่ง ความตั้งใจช่วยจะกลายเป็นเจตนาร้าย
กว่าจะได้เส้นไหมแต่ละเส้น กว่าจะออกแบบเป็นลวดลาย ถักทอ ได้เป็นผืนผ้าแต่ละผืน มันช่างยากเย็นเสียจริง ไม่นึกแปลกใจว่าเหตุใดผ้าไหมจึงได้ราคาสูงนัก เพราะแต่ละกระบวนการล้วนมาจากความตั้งใจ รวมถึงความรู้เทคนิควิธีการ ที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ผ้าไหมก็ยังคงเกี่ยวพันกับชีวิตของคนไทยจนถึงปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น