เสียงโทรศํัพท์ดังขึ้นขณะที่กำลังขับรถ เมื่อเอื้อมมือไปหยิบ เหตุเพราะกลัวอุบัติเหตุ จึงพูดสั้นๆ และตัดบทโดยเร็ว ได้ยินเสียงปลายสาย เป็นเสียงน้องสาว มาชวนให้เดินแบบโชว์ผ้าไหมพื้้นบ้านในงานดอกจาน ที่อำเภอกำลังจัดงานอยู่ เมื่อเร่งรีบจึงตอบตกลงไป แล้วบอกว่าค่อยคุยกัน
เมื่อผ่านไปสักวันเริ่มนึกขึ้นมาได้ เอ๊ะ ? งานเค้ามะรืนนี้นี่นา แล้วไหนจะเสื้อผ้า หน้าผม ว่าแต่นางแบบเค้าเดินกันอย่างไรรึ ? อ้าวแล้วกัน ! ความเครียดเริ่มมาเยือน
เมื่อตกลงไปแล้ว จะตอบปฏิเสธมันก็ไม่ได้ จึงเก็บความเครียดไว้ในใจ แต่น้องสาวทำให้รู้สึกโล่งใจขึ้น เพราะคุณเธอบอกว่า เตรียมทุกอย่างให้แล้วเสร็จ เอ่อ…ค่อยยังชั่ว ที่เหลือ ว่าแต่นางแบบเนี่ยเค้าเดินไงเหรอ แล้วหน้าตาโหลยโท่ย ขนาดนี้คงได้ยินเสียงโห่ไล่ลงเวทีแน่ ๆ ชักเครียดในความงามของตน
และแล้วก็มาถึงวันซ้อม เนื่องจากนางแบบแต่ละคนก็ไม่เคยเดินแบบกันมาก่อน เป็นตัวแทนในหมู่บ้าน ชุมชน ดังนั้นเมื่อไม่มีใครเป็นไม่มีมืออาชีพ ความเครียดก็ลดลง ความมั่นใจกลับเพิ่มขึ้น เอาเถอะถึงไม่สวย แต่ท่าเดินฝึกกันได้ นางแบบเค้าก็ให้มาอวดเสื้อผ้าที่ใส่ ถึงหน้าตาไม่สวยสะ แต่เอาบุคลิก เริ่ด ๆ เชิด ๆ กล้าสะบัด กล้าอวดเสื้อผ้าที่ใส่ มันก็น่าจะผ่าน อืม สู้โว้ย !!!
วันงาน…ประทับใจช่างแต่งหน้า ช่างแต่งตัวมาก คุณเธอมองหน้าเราแป๊บ แล้วหาบรรยายเสื้อผ้า หน้าผม แต่งแป๊บ ๆ เราก็สวยบรรเจิด จำหน้าตาตนเองไม่ได้ คนเดินผ่านไปมา ชมเปาะ Supermodel ของแท้มาเอง ! นั่นไง ความมั่นใจวิ่งเข้ามาเต็มเปี่ยม เอาหล่ะ วิญญาณนางแบบเข้าสิงเสียแล้ว
นาทีระทึกกับการอยู่บนเวที พอเริ่มต้นเดินปุ๊บ เสียงฮือฮาจากด้านล่าง ทำให้เราประหม่าไปนิด เหตุเพราะลีลาท่าเดิน ของเรากับน้องสาว ต่างจากคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง เราทั้งคู่ ต่างตกลงกันว่าเดินเหมือนนางแบบของแท้ คนอื่นๆ เค้าสวย ๆ กันทั้งนั้น แต่เดินไม่มีลีลาท่าทาง แต่เราจะเอาท่านางแบบที่เลียนแบบมาจากโทรทัศน์ หลังการเดินเสร็จสิ้น ได้รับคำชมมากมาย หลายคนบอกว่า เด่นที่สุดในงาน เพราะสง่าและดึงดูดใจผู้ชม เหมือนนางแบบมืออาชีพมาเอง ….ขอบคุณประสบการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่า เรา ! ผู้หญิงธรรมดา ก็สวยได้ แค่ดึงมันออกมาโชว์ เอาความสามารถมาใช้ให้เป็นประโยชน์มันเพิ่มคุณค่าของความสวยแบบธรรมดาให้ออกมาส่องประกายได้มากกว่าใคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น